ในวันหยุดสุดสัปดาห์ของเหล่านักธุรกิจ ผู้บริหารทั้งหลายนั้น คงมีไม่น้อยที่จะต้องไปเจรจาธุรกิจกันต่อที่ สนามกอล์ฟ ว่ากันว่าการดีลงานจำนวนไม่น้อยเลยที่สามารถสำเร็จได้ในสนาม ซึ่งบรรยากาศของสนามนั้นก็มีผลในการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ หากได้นัดเล่นที่เจ๋งๆก็ยิ่งเหมือนเป็นการให้เกียรติผู้ที่จะคุยงานด้วย คราวนี้หลายท่านอาจสงสัยว่า สนามกอล์ฟ ที่ดีนั้นมีคุณสมบัติอะไรบ้างที่จะสามารถบอกได้ว่าเป็น สนามกอล์ฟที่ดีที่สุด เนื่องจากแต่ละคนนั้นก็มีความชอบ ความเห็น แตกต่างกันไป วันนี้แอดมินจะมาบอกการจัดอันดับว่าดีนั้นจะต้องดูอะไรบ้าง

1. ทำเลที่ตั้ง เป็นธรรมดาที่ประเด็นนี้ต้องอยู่ในการจัดอันดับต้นๆ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วการจะนัดออกรอบก็ควรจะนัดสถานที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย และใกล้จุดที่พักอาศัยหรือสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใกล้ๆกรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี หรือในเขตปริมณฑล โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นหมู่บ้านหรือนิคมอุตสาหกรรมจะยิ่งทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมาก หรือควรจะตั้งอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ หรือจังหวัดที่มีความนิยมของนักท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยว

2. คุณภาพสนามหญ้า จากทำเลที่ตั้งแล้วสิ่งที่ต้องมาดูต่อไปคือคุณภาพของหญ้าที่ใช้ในสนามกอล์ฟ หญ้าที่ใช้ปู Fairway และ Green ต้องแน่นเรียบเนียน ซึ่งนอกจากพันธ์หญ้าที่ดีแล้ว ยังต้องมีคนงาน คนสวนที่หมั่นคอยดูแลตัดเล็มและรดน้ำทุกวัน ซึ่งรายละเอียดทุกตารางเมตรสำคัญมาก ไลน์ของกรีนและแฟร์เวย์มีส่วนทำให้ผลการแข่งขันเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

3. จำนวนหลุมของสนาม สนามที่ได้มาตรฐานควรจะมีจำนวนครบ 18 หลุม เวลาแข่งขันนั้นแต่ละหลุมจะมีความแตกต่างกันไป ซึ่งการแข่งขันก็จะราบรื่นไม่จำเจ ทำให้ผู้เล่นได้ใช้ฝีมืออย่างเต็มที่ และสามารถแข่งขันได้อย่างสนุกสนาน แต่หากไม่ครบก็ให้มีอย่างน้อย 9 หลุมก็สามารถแข่งขันได้เช่นกัน

4. ความหลากหลายของสนาม นอกจากจะมีจำนวนที่ครบ 18 หลุมแล้ว แต่ละหลุมก็ควรมีจุดเด่น ความยากง่าย แตกต่างกันไปเพื่อความหลากหลายของสนาม ไม่ว่าจะมีน้ำ ระยะหลุม บ่อทราย เพื่อเพิ่มความท้าทายให้กับผู้แข่งขัน และจะทำให้เกิดพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความตื่นเต้นเมื่อคู่แข่งเล่นในสนามที่ไม่ถนัดก็จะทำให้เกิดความสูสีมากขึ้น

5. คุณภาพแคดดี้ นอกจากสนามแล้วผู้ช่วยผู้แข่งขันหรือแคดดี้ ก็มีส่วนในการยกระดับมาตรฐานของสนาม แคดดี้ที่ดีนั้นจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับสนามแต่ละหลุมว่ามีอุปสรรคและข้อควรระวังอย่างไร ควรจะวางแผนการตีแบบไหนให้ได้แต้มที่ดีที่สุด นอกจากคำแนะนำแล้ว การแต่งกายที่เรียบหรูมีระดับก็จะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของสนามนั้นดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย

6. คลับเฮาส์ มาต่อกับส่วนประกอบที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าสนามและแคดดี้ คลับเฮ้าส์เปรียบเสมือนหน้าตาของสนาม ทุกคนที่เข้ามาเยือนต้องมาติดต่อประสานงานที่นี่ก่อน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่ จำนวนที่จอดรถ ห้องน้ำ ห้องรับรอง ห้องอาหาร ร้านค้า ห้องประชุม ผู้จัดการ พนักงานต้อนรับ ล้วนมีส่วนในการจัดอันดับสนามกอล์ฟที่ดีทั้งสิ้น ในส่วนนี้ก็เป็นสิ่งที่เจ้าของจะละเลยไม่ได้เลย และยังเป็นส่วนที่มีรายละเอียดมากมายที่ต้องเอาใจใส่สูงมาก

7. รถกอล์ฟ ส่วนต่างๆนั้นล้วนมีผลในต่อคุณภาพภาพรวม รถกอล์ฟก็เช่นกัน รถที่เหมาะสมกับสนามที่มีคุณภาพสูงนั้น ต้องเป็นรถกอล์ฟที่มีมาตรฐาน และมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่หมดระหว่างวัน และต้องมีหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับลูกค้าที่จะใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบ 4 ที่นั่งไปถึง 10 ที่นั่ง หากลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มเล็กๆจะได้สามารถไปด้วยกันได้อย่างใกล้ชิด

8. ราคาที่สมเหตุสมผล นักกอล์ฟทุกคนล้วนทราบกันดีว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลสนามนั้นค่อนข้างสูง และต้องมีความเอาใจใส่เป็นอย่างมากที่จะทำให้สนามพร้อมต่อการลงแข่งขัน ในเรื่องราคานั้นนักกอล์ฟไม่กลัวเรื่องราคาที่สูง แต่ต้องมีคุณภาพที่สมเหตุสมผล ส่วนใหญ่แล้วสนามที่มีมาตรฐานสูงเริ่มต้นที่ราคาคนละ 1500 บาท